“ศรีสวัสดิ์” จับมือเครดิตบูโรบริหารเสี่ยง ประวัติจ่ายหนี้ดีได้ลดดอก!

“ศรีสวัสดิ์” จับมือเครดิตบูโรบริหารเสี่ยง ประวัติจ่ายหนี้ดีได้ลดดอก!


เงินทุนศรีสวัสดิ์ บริหารความเสี่ยงการปล่อยกู้พนักงานบริษัทเช็กข้อมูลเครดิต บูโรเพิ่ม ระบุประวัติการเงินดี มีผลต่อการคิดดอกเบี้ยต่ำ เล็งนำระบบเครดิตสกอริ่ง ช่วยวิเคราะห์สินเชื่อ พร้อมเคลียร์ในเครดิตบูโร ไม่มีบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์
นางสาวธิดา แก้วบุตตา นักลงทุนสัมพันธ์บริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่มบริษัทศรีสวัสดิ์ ได้เปิดเผยว่า บริษัทจะให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มมากขึ้น เพราะในขณะนี้บริษัทถือเป็นสถาบันการเงินภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประ-เทศไทย จากรูปแบบเดิมที่ฐานลูกค้าของบริษัทเงินทุน จะมีแค่การปล่อยกู้ให้กับพนักงานบริษัท โดยจะใช้ข้อมูลของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแต่ละบริษัทเป็นข้อมูลในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ
 แต่ในกรณีที่ลูกค้าต้องการวงเงินที่สูงกว่าปกติ บริษัทก็มีกระบวนการการเช็กประวัติข้อมูลการก่อหนี้ และการชำระหนี้จากเครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ซึ่งข้อมูลเครดิตบูโรของลูกค้าจะมีผลต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ย เพราะเราเชื่อว่าการมีวินัยทางการเงิน ใช้หนี้ครบและตรงตามกำหนดเวลา จะส่งผลให้ถูกจัดเป็นบุคคลที่มีประวัติเครดิตดี จากการมีวินัยทางการเงินดี โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อที่มีวงเงินค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการนำระบบเครดิตสกอริ่ง หรือ “ตัวชี้วัดความน่าจะเป็นในการชำระหนี้ได้” มาช่วยในการวิเคราะห์สินเชื่อ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการจัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อ (Credit Risk Management) โดยก่อนหน้านี้ที่บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทศรีสวัสดิ์ ได้มีการลงนามร่วมกับเครดิตบูโร หรือบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ไปแล้ว
“สิ่งที่ผู้ปล่อยสินเชื่อพิจารณาคือ ข้อมูลตามความจริง ตัวอย่างเช่น ไม่มีประวัติการค้างชำระ มีประวัติการเคยค้างชำระหรือเป็นคนเคยค้างในอดีต หรือในปัจจุบันนี้ยังมีการค้างชำระในบางบัญชีอยู่ โดยเครดิตบูโรไม่ได้เป็นตัวที่ขัดขวางไม่ให้คนได้เงินกู้ แต่ประวัติของคนที่ยื่นขอกู้ต่างหากที่เป็นโอกาสหรืออุปสรรคในการได้เงินกู้ เครดิตบูโร เป็นแค่หน่วยงานเก็บรักษาข้อมูล และเปิดเผยเมื่อลูกค้าให้ความยินยอมให้เปิดเผยเท่านั้น เราในฐานะสมาชิกและผู้ใช้ข้อมูลเครดิตบูโรในการพิจารณาสินเชื่อ ไม่พบว่ามีการขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์ในข้อมูลเครดิตบูโร”
ด้านนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลสินเชื่อจากเครดิตบูโรมีประโยชน์ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการที่เป็นสถาบันการเงิน และในส่วนของผู้ขอสินเชื่อ เพราะเครดิตบูโรเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการมีสินเชื่อ และการชำระหนี้ของลูกค้าสินเชื่อทั้ง Bank และ Non-Bank ที่เป็นสมาชิก
 โดยการจะเปิดเผยให้สมาชิกเข้ามาดูข้อมูลได้ ก็จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนเท่านั้น จึงจะเปิดเผยได้ ขณะที่ลูกค้าผู้ขอสินเชื่อเอง ก็สามารถเช็กประวัติของตัวเองได้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการขอสินเชื่อ และในรายที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อ สามารถนำจดหมายปฏิเสธสินเชื่อมายื่นขอตรวจสอบเครดิตบูโรได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อตรวจดูว่าข้อมูลเครดิตของท่านถูกต้องหรือไม่และมีจุดไหนที่เป็นสาเหตุให้ถูกปฏิเสธสินเชื่อ จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป
“สิ่งที่สมาชิกในกลุ่มศรีสวัสดิ์ได้ออกมายืนยันก็คงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าในเครดิตบูโรไม่มีการจัดเก็บสิ่งที่เรียกว่า บัญชีดำ หรือมีข้อมูล Blacklist หรือคำที่ชอบพูดกันว่าติดเครดิตบูโร แต่อย่างใด เพราะการจะได้สินเชื่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอาชีพ อายุ รายได้ ทรัพย์สิน ความสามารถในการชำระหนี้ ประวัติการก่อหนี้ ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา เป็นต้น”
วิเคราะห์ข่าว : นางสาวธิดา แก้วบุตตา นักลงทุนสัมพันธ์บริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่มบริษัทศรีสวัสดิ์ ได้เปิดเผยว่า บริษัทจะให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่จะพิจารณาจากแค่ฐานลูกค้าของบริษัทเงินทุน โดยจะใช้ข้อมูลของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในแต่ละบริษัทเป็นข้อมูลในการพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อในแต่ละครั้ง แต่ถ้าเกิดในกรณีที่ลูกค้าต้องการวงเงินที่สูงกว่าปกติ บริษัทก็จะมีกระบวนการเช็คประวัติข้อมูลการก่อหนี้ และการชำระหนี้จากเครดิตบูโร โดยบริษัทจะนำระบบเครดิตสกอริ่งมาช่วยในการวิเคราะห์สินเชื่อ เพราะว่าเครดิตบูโรเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการให้สินเชื่อ และการชำระหนี้ของลูกค้าสินเชื่อที่เป็นทั้ง Bank และ non- Bank  ที่เป็นสมาชิก
ความคิดเห็น : จากข่าวถือว่าบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) มีจรรยาบรรณของบริษัทตามข้อ(5) ต้องรักษาไว้ ซึ่งผลประโยชน์และความลับของบริษัทของลูกค้า หรือที่เกี่ยวกับกิจการใด ๆ ที่บริษัท ไม่พึงเปิดเผยโดยเคร่งครัด การเผยแพร่ข่าวสารต่าง ๆ อันเกี่ยวกับธุรกิจการเงินและตัวบุคคลของบริษัท จะต้องกระทำตามแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น และต้องกระทำด้วยความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ตลอดระยะเวลาที่เป็นพนักงานของบริษัท และภายหลังจากพ้นสภาพของพนักงานของบริษัท พนักงานทุกคนตกลงจะรักษาข้อมูลอันเป็นความลับดังกล่าวข้างต้นไว้เป็นความลับ
หากมีการเปิดเผยหรือส่งให้แก่ผู้อื่นหรือใช้ข้อมูลดังกล่าวในเรื่องอื่นใดนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัท พนักงานตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายให้แก่บริษัท ตามที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง : บริษัทจะมีการนำระบบเครดิตสกอริ่ง หรือ “ตัวชี้วัดความน่าจะเป็นในการชำระหนี้ได้”  ตาม พรบ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตฯ และประกาศ กคค. ที่เกี่ยวข้องแบบจำลองคะแนนเครดิต (Credit scoring) คือ เครื่องมือที่ใช้กระบวนการ ทางสถิติทำขึ้นเพื่อกำหนดตัวชี้วัดความน่าจะเป็นในการชำระคืนหนี้ โดยใช้ข้อมลูเฉพาะ ในส่วนที่ไม่สามารถระบุตัวของเจ้าของข้อมูลมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการจัดทำคะแนนเครดิต (Credit score) คือ ตัวชี้วัดความน่าจะเป็นในการชำระคืนหนี้ โดยใช้วิธีการทางสถิติในการประมวลผลข้อมูล
ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/960050
วิเคราะห์โดย : นางสาวปิยะนุช วงศ์ขันธ์   5911011804103

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปิดฉากความขัดแย้ง! "เงินติดล้อ" ฟ้อง "ศรีสวัสดิ์"

“SAWAD” พลิกสินเชื่อห้องแถว ลุย “สถาบันการเงินทางเลือก”

BFIT จะเข้าทำสัญญาบริหารจัดการสินเชื่อกับศรีสวัสดิ์ 2014 เป็นเวลา 2 ปี มูลค่า 1.89 พันลบ.